วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ประโยชน์ของแตงโมช่วยบำรุงสายตา The benefits of watermelon nourish the eyes by LASIK HEALTHY EYES

ขอบคุณภาพประกอบจาก wall.alphacoders.com
ประโยชน์ของแตงโมช่วยบำรุงสายตา
The benefits of watermelon nourish the eyes .

แตงโม ภาษาอังกฤษ : Watermelon ส่วน แตงโมชื่อวิทยาศาสตร์ : Citrullus lanatus (Thunb.) Matsum. & Nakai สำหรับชื่ออื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเรียกว่า “บักโม” ส่วนภาคเหนือจะเรียกว่า “บะเต้า” แต่ถ้าเป็นคนจังหวัดตรังแล้วจะเรียกกันว่า “แตงจีน” เป็นต้น

แตงโมนั้นมีต้นกำเนิดในแถบทวีปแอฟริกาในทะเลทรายคาลาฮารี ซึ่งชาติที่แรกที่ปลูกแตงโมไว้รับประทานนั้นก็คือชาวอียิปต์ (สี่พันกว่าปีมาแล้ว) สำหรับประเทศไทยนั้นการปลูกแตงโมจะมีอยู่ทั่วทุกภาคและปลูกได้ทุกฤดู

แตงโม จัดเป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับ แคนตาลูป ฟักทอง แตงกวา ซึ่งนักพฤกษศาสตร์จัดให้อยู่ในวงศ์แตง (Family Cucurbitaceae) เป็นผลไม้ที่มีน้ำประกอบอยู่ในปริมาณมากจึงมีคุณสมบัติเย็น รับประทานแล้วหวานชื่นใจ

สำหรับประโยชน์ของแตงโมเช่น ช่วยลดอาการไข้ คอแห้ง รักษาแผลในปาก เป็นต้น และยังเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอีกด้วยเพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด อย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบีรวม แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เป็นต้น

แตงโม มีสารอีกชนิดหนึ่งที่สำคัญอย่างมากนั่นก็คือ Citrulline (ซิทรูไลน์) ซึ่งจะพบสารนี้ในเปลือกมากกว่าส่วนของเนื้อ ดังนั้นการรับประทานแตงโมที่มีส่วนเปลือกขาวๆติดมาด้วยก็จะเป็นประโยชน์ที่ดีมากกว่าที่จะกินแต่เนื้อสดๆ

สำหรับประโยชน์ของสารนี้ก็คือ จะช่วยขยายเส้นเลือด ดีต่อระบบภูมิคุ้มกันและยังเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วนอีกด้วย เพราะมีแคลอรีต่ำมาก

ข้อควรระวัง

อย่างไรก็ตามก่อนที่เราจะผ่าแตงโมรับประทานควรจะล้างเปลือกให้สะอาดเสียก่อนเพื่อป้องกันสารพิษตกค้างซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ เพราะแตงโมเป็นพืชที่ถูกรบกวนได้ง่ายจากแมลงศัตรูพืชต่างๆ ชาวสวนจึงนิยมที่จะฉีดยาฆ่าแมลงเป็นปกติ

แต่สำหรับผู้ที่มีกระเพาะ ม้ามไม่แข็งแรง กระเพาะลำไส้อักเสบ หญิงหลังคลอด หลังป่วยหนัก หรือผู้ที่มีอาการปัสสาวะมากและบ่อย มีอาการท้องร่วงง่าย ไม่ควรรับประทานแตงโม

คุณค่าทางโภชนาการของผลแตงโมดิบ (ส่วนที่กินได้) ต่อ 100 กรัม

- พลังงาน 30 kcal 130 kJ
- คาร์โบไฮเดรต 7.55 กรัม
- น้ำตาล 6.2 กรัม
- เส้นใย 0.4 กรัม
- ไขมัน 0.15 กรัม
- โปรตีน 0.16 กรัม
- วิตามินเอ 28 ไมโครกรัม 3%
- วิตามินบี1 0.033 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี2 0.021 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินบี3 0.178 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินบี5 0.221 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี6 0.045 มิลลิกรัม 3%
- กรดโฟลิก 3 ไมโครกรัม 1%
- วิตามินซี 8.1 มิลลิกรัม 14%
- ธาตุแคลเซียม 7 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุเหล็ก 0.24 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุแมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุฟอสฟอรัส 11 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุโพแทสเซียม 112 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุสังกะสี 0.10 มิลลิกรัม 1%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

ประโยชน์ของแตงโม

- มีวิตามินเอ ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสายตา แก้ตาฟาง หน้าที่ของวิตามินเอคือช่วยในการสร้างสารที่ใช้ในการมองเห็น หากขาดจะทำให้มองเห็นได้ยากในเวลากลางคืนหรือในที่แสงสว่างน้อย และทำให้เยื่อบุตาแห้ง กระจกตาเป็นแผล ในกรณีที่ร่างกายขาดวิตามินเออย่างรุนแรงอาจทำให้ตาบอดได้

- วิตามินเอในผลแตงโม มีส่วนช่วยล้างพิษจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปได้ด้วย ใช้รับประทานเป็นผลไม้สด ทำเป็นน้ำผลไม้ดื่มคลายร้อน ลดความร้อนในร่างกาย เป็นผลไม้ที่เหมาะกับผู้ต้องการลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนักอย่างมาก เพราะมีแคลอรี่ต่ำ ประโยชน์แตงโมช่วยในการควบคุมน้ำหนักไม่ให้น้ำหนักเกิน ป้องกันการสะสมของไขมันที่เป็นอันตรายกับร่างกาย ลดปริมาณไขมันที่จับอยู่ภายในเลือด

- แตงโมยังมีสรรพคุณที่สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อ เพราะจากการดื่มน้ำแตงโมจะช่วยเพิ่มเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายสามารถใช้ในการสร้างวิตามินเอ และการมีวิตามินเอมากๆ ก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ แตงโมยังเป็นผลไม้ที่มี citrulline อยู่มาก สารตัวนี้จะไปช่วยในการรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น ในการรับประทานแตงโม ควรทานเนื้อของแตงโมด้วย โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นเนื้อสีขาวที่อยู่ลึกลงไป แม้รสชาติจะไม่ค่อยหวานแต่มีประโยชน์มากมาย

- แตงโมช่วยลดความอ้วนได้ จากงานวิจัยต่างๆที่ตีพิมพ์ใน วารสารโภชนาการ ของต่างประเทศ “Journal of Nutrition” ได้ให้ข้อมูลว่า กรดอะมิโนในแตงโม ที่มีชื่อว่า “อาร์จินิน (Arginine)” มีอยู่มากมายในเนื้อแตงโม เป็นสารที่ช่วยในการเผาพลาญแคลอรี่ได้  โดยนักวิจัยได้ให้อาหารเสริม Arginine แก่หนูที่มีน้ำหนักเกินเป็นเวลาติดต่อกันกว่าสามเดือน และพบว่ามันช่วยลดปริมาณไขมันในร่างกาย ลูงได้ถึง 64 % ไม่เพียงแค่นั้น ยังช่วยให้เราอิ่มได้ไวขึ้นอีกด้วย

- ทานแตงโมแล้วคลายเครียด แตงโมสามารถช่วยลดความตึงเครียดได้อีกด้วย เพราะโพแทสเซียมในแตงโม จะช่วยควบคุมความดันโลหิต ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดีเย็นชื่นใจ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย

- แตงโมช่วยทำให้ผิวพรรณดี ให้เราเฉือนแตงโมให้เป็นชิ้นบางๆ พยายามใช้เนื้อที่อยู่วงในสุด (ถ้าใช้เนื้อแตงโมที่อยู่ใกล้เปลือกจะมีความเข้มข้นของกรด) พอได้สักประมาณ 10-15 ชิ้นแล้ว ให้เรานำมาวางที่ผ้าขาวบาง แล้วนำมาปิดลงที่ใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

TIP

วิธีการเลือกซื้อแตงโม

- ควรเลือกแตงโมที่ลักษณะ เปลือกผิวเรียบ ไม่เป็นรอยบุบ หรือช้ำ
- ลองดีดแตงโมจะได้ยินเสียงที่แน่น แปลว่าเนื้อในกรอบ
- สังเกตุที่ขั้วแตงโมจะไม่แห้งมากสีคล้ายคลึงกับผิวแตงโม
- ถ้าเขาผ่าแตงโมให้ดู ควรเลือกที่มีสีแดงเป็นธรรมชาติไม่สดมาก เพราะถ้าสีแดงสดมากใช้สารเร่งสีเยอะ

ข้อมูลเพิ่มเติม :-

Antioxidant carotenoids found in watermelon include significant amounts of beta-carotene. Like lycopene, the beta-carotene in watermelon also increases with ripening.

Red-pink fleshed watermelons typically contain far more lycopene and beta-carotene than yellow-white fleshed varieties. For example, one study we've seen showed red watermelon to contain over 600 micrograms of beta-carotene per 3.5 ounces of melon and over 6,500 micrograms of lycopene. By comparison, yellow-fleshed varieties were found to contain only 5-10 micrograms of beta-carotene and no measurable amount of lycopene. In red/pink-fleshed watermelons as a group, we've seen lycopene amounts that vary widely in a range of approximately 2,000–6,700 micrograms per 3.5 ounces of fresh melon. Beta-carotene in these red/pink-fleshed varieties also varies widely, in a range of approximately 5–325 micrograms. Because watermelon contains so many different phytonutrients—as well as key vitamins and minerals, as well as dietary fiber—your health is going to be improved by any watermelon variety that you choose. However, if you specifically want to maximize your lycopene and beta-carotene intake, you'll most likely want to stick with red/pink-fleshed varieties of watermelon.
Thanks English Info From : Watermelon - The World's Healthiest Foods
http://goo.gl/6SdrUQ

ข้อมูลเพิ่มเติม :-

Citrulline
Citrulline is an amino acid, and within the body it changes over to arginine. A study reported in the Journal of Nutrition for the American Society for Nutritional Sciences states that arginine actually reverses the negative action of the cells (such as developing atherosclerosis) that is brought on by heart disease risk factors such as smoking, obesity, aging and high blood pressure.

Vitamins A and C
Watermelon is also an excellent source of vitamins A (beta-carotene) and C, both antioxidant vitamins. The National Cancer Institute reports that these antioxidants have been found in some studies to prevent cellular damage that can lead to cancer, but that more human studies must be done to confirm this. The institute does, however, recommend eating a diet rich with fruits that contain antioxidants, which would obviously include.
Thanks English Information From : livestrong
http://goo.gl/MgTnkv

ข้อมูลอ้างอิง

วิตามินเอ : จากวิกิพีเดีย
http://goo.gl/j71VfW
แตงโม ผลไม้มีประโยชน์มากกว่าที่เราคิด | สุขภาพไทย.com
http://goo.gl/ldKSAe
กรีนเนอรัลด์ เฮลท์
http://goo.gl/uww5Ij
Watermelon - The World's Healthiest Foods
http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=foodspice&dbid=31#healthbenefits
livestrong
http://www.livestrong.com/article/17784-nutritional-value-watermelon/

"HkVogue Thailand" http://buff.ly/1GR2YNk
Contact : Willy Tel. 093 649 2288
email : hkvoguethailand@gmail.com

ข้อแนะนำ

ในแต่ละวันควรบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ และทานอาหารให้หลากหลาย ไม่รับประทานอาหารซ้ำๆกันทุกวัน เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายและมีสุขภาพที่ดี

บทความที่ได้รับความนิยม