วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

หัวบีทรูทสีแดง เป็นหนึ่งในผักผลไม้ที่มีสีแดง Red beet root . Is one of the fruits and vegetables that are red

หัวบีทรูทสีแดง เป็นหนึ่งในผักผลไม้ที่มีสีแดง
Red beet root . Is one of the fruits and vegetables that are red

บีทรูท (Beetroot)

บีทรูท หรือ บีตรูต อ่านว่า บีท-รูท อย่าอ่านว่า บี-ทรูท (Beetroot, Garden Beet, Common Beet) หรือ ผักกาดฝรั่ง ผักกาดแดง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Beta Vulgaris (L.) เป็นผักเพื่อสุขภาพประจำเมืองหนาวที่ปลูกกันมากทางภาคเหนือของบ้านเรา โดยมีต้นกำเนิดในแถบเมดิเตอร์เรเนียน แถบยุโรป โดยมีรากหรือหัวพืชที่สะสมอาหารอยู่ใต้ดิน มีลักษณะทรงกลมป้อม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4-5 เซนติเมตร เนื้อด้านในอวบน้ำ มีสีแดงเลือดหมู ม่วงแดง และเหลือง

หัวบีทรูท (Beetroot) เต็มไปด้วยวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และแก้โรคตามัวตอนกลางคืน วิตามินบีรวม ตลอดจนมีสารสีแดงในหัวที่มีชื่อว่า เบทานิน (Betanin) ซึ่งเป็น กรดอะมิโน เป็นตัวช่วยยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยลดการเติบโตของเนื้องอกได้ ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้ถึง400% จึงช่วยให้ห่างไกลจากโรคมะเร็ง  และยังทำให้เลือดลมและระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดีมากขึ้น

สำหรับคนทำงานที่ต้องใช้สายตามากๆ แนะนำให้ทาน แครอท บีทรูท หรือผักโขม จะช่วยบำรุงสายตาได้มาก เช่น ผักโขมให้พลังงานต่ำแต่มีวิตามินสูง ผักโขม 1 ถ้วย มีวิตามินเคและวิตามินเอสูงกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน มีแมงกานีสและโฟเลตเกือบเท่ากับปริมาณที่ร่างกายต้องการและมีแมกนีเซียมประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ที่ร่างกายต้องการต่อวัน

ขอบคุณภาพประกอบจาก trueplookpanya

TIPS 

สารเคมีที่มีประโยชน์จากผักผลไม้ที่มีสีแดง
ภญ.ดร.นิศารัตน์ ศิริวัฒนเมธานนท์ 
ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ประโยชน์ของไลโคพีนในผักผลไม้สีแดง 

ไลโคพีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายโดยเฉพาะเซลล์ผิวหนังและช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคต้อกระจก

ข้อมูลอ้างอิงจาก : บีทรูท
จากวิกิพีเดีย

บีทรูท หรือชื่ออื่นเช่น ผักกาดฝรั่ง ผักกาดแดง เป็นหัวพืชหรือรากที่สะสมอาหารที่อยู่ใต้ดิน เป็นพืชเมืองหนาวและเป็นผักเพื่อสุขภาพ มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด

คุณค่าทางโภชนาการของบีทรูท

ในรากของบีทรูท มีวิตามินเอ วิตามินบีรวม ซึ่งอุดมไปด้วยโฟเลตเป็นสารประกอบจากกรดโฟลิก เป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งทำงานร่วมกับวิตามินบี 12 มีโพแทสเซียม และวิตามินซีสูง ในยอดใบที่มีสีเขียวเข้ม มีสารบีตา-แคโรทีน ซึ่งมีแคลเซียม เหล็ก และโพแทสเซียมกับวิตามินเอสูง

ในบีทรูทสุก 100 กรัม ให้พลังงาน 27 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วย โซเดียม 241 มิลลิกรัม คาร์โบไฮเดรต 5.5 กรัม เส้นใย 2.9 กรัม น้ำตาล 0.6 กรัม โปรตีน 2.6 กรัม และโพแทสเซียม 909 มิลลิกรัม [4]

ในหัวบีทรูท มีสารสีแดง เรียกว่า เบทานิน (betanin) เป็นพวกกรดอะมิโน ช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็ง ลดการเติบโตของเนื้องอก ทำให้เลือดลมและการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น

และสารสีม่วง เรียกว่า แอนโทไซยานิน (anthocyanin) ในสภาพเป็นกลาง มีสีม่วง pH 7-8 สภาพเป็นเบส มีสีแดง pH > 11 และสภาพเป็นกรด มีสีน้ำเงิน pH < 3 ซึ่งแอนโทไซยานิน เป็นรงควัตถุที่ให้สีแดง ม่วง และน้ำเงิน มีสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลบล้างสารที่ก่อมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและลดอาการอัมพาต

ข้อมูลเพิ่มเติม : Health benefits of Fruits
http://buff.ly/16HvUYW

Health benefits of beetroot

Prevents or even delays the formation of cataracts

Because of their higher vitamin A content, beets can easily sluggish or even totally avoid the development of cataracts, eye diseases that may impact a person’s vision as time passes. Your teeth, skin, and also mucus membranes will even significantly take advantage of a normal consumption of naturally-sourced vitamin A, as present in beets.

Macular degeneration

Macular degeneration is definitely a difficult medical problem through which one’s vision can become blurry, and eventually impaired, because of the deterioration of particular eye cells. Due to their previously mentioned beta-carotene content, however, beets might help avoid this eye condition.

ข้อแนะนำ

ในแต่ละวันควรบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ และทานอาหารให้หลากหลาย ไม่รับประทานอาหารซ้ำๆกันทุกวัน เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายและมีสุขภาพที่ดี

บทความที่ได้รับความนิยม